top of page

เป็นสิวอุดตัน ทำยังไงดี

April 14, 2017  |  #defacebrand

         สวัสดีค่ะสาวๆ ถ้าใครกำลังเป็นสิวอุดตันอยู่ต้องอ่านให้จบนะ ถ้าพูดคำว่า “สิวอุดตัน” คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกันดี มันไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร แต่!! ก็เป็นปัญหาใหญ่ของผู้หญิงอย่างเราทุกคน โดยเฉพาะสิวอุดตันที่ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดตะปุ่มตะป่ำและยากต่อการรักษาให้หาย ในวันนี้เราจะพาคุณสาวๆมาทำความรู้จักสิวอุดตันไปพร้อมๆ กัน มาดูกันเลยว่าต้องทำอย่างไร

สิวอุดตันคืออะไร ?

 

       สิวอุดตัน โดยทั่วไปแล้ว มีลักษณะเป็น เม็ด ตุ่ม หรือผื่น ซึ่งเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันจนก่อให้เกิดความแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของสิว โดยแยกออกมาเป็นได้ทั้ง

       ​สิวผด สิวที่มีลักษณะเป็นผดเล็กๆ แต่ไม่มีหัว และมักขึ้นในบริเวณหน้าผากไรผม จมูกและแก้ม เมื่อไรที่เหงื่อออกมากหรืออยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน บวกกับการเช็ดถูผิวหน้าแรงๆ โดยมีสิ่งสกปรกทับถมเพิ่ม สิวผดก็มักจะผุดขึ้นได้อย่างง่ายดาย

       นอกจากสิวผดแล้วก็ยังมี"สิวหัวเปิดหรือสิวหัวดำ สิวหัวปิดหรือสิวหัวขาว"ซึ่งสิวแต่ละชนิดมีลักษณะที่แตกต่างกันไป 

________________________________________________________

สิวอุดตัน แบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลักๆ ดังนี้

1. สิวอุดตันหัวเปิด : Open Comedo (Black Head)

   เป็นสิวอุดตันชนิดที่มีหัวสีดำ หรือที่เรียกกันว่า สิวหัวดำ หรือ Black head นั่นเอง สิวอุดตันชนิดนี้สามารถบีบหรือใช้วิธีการกดมันให้ออกมาจากใต้ผิวได้ ทั้งนี้ก็ควรลงมือทำให้ถูกวิธี เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจจะทำให้เกิดอาการอักเสบตามมาได้

 

2. สิวอุดตันหัวปิด : Closed comedone

    สิวอุดตันหัวปิด หรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Closed comedone เป็นสิวอุดตันที่มีลักษณะเป็นสิวหัวขาว หรือ White head สิวอุดตันชนิดนี้อยู่ในประเภทของสิวที่ไม่มีหัวให้สามารถบีบ หรือกดให้ออกจากผิวหนังได้หากลงมือทำการบีบหรือกดสิวอุดตันหัวปิดไป จะกลายเป็นการยิ่งเข้าไปกดหรือไปบีบไขมันที่ไม่มีทางออกจากผิว จนสามารถทะลักกลับไปในผิวใหม่ได้

    ในส่วนของลักษณะสิวอุดตันชนิดนี้ มักจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเพียงเล็กน้อย โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ประมาณ 0.1-3 มิลลิเมตร และมีลักษณะสีเดียวกับผิวหนังปกติของแต่ละคน และที่แน่ๆ ประมาณ  75% ของสิวอุดตันหัวปิดนี้จะกลายมาเป็นสิวอักเสบ

 

3. สิวอุดตันที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า : Microcomedone

    สำหรับสิวอุดตันที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Microcomedone ซึ่งเป็นสิวที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเริ่มเข้าสู่การเป็นวัยรุ่น ร่างกายจะเริ่มมีการสร้างฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แอนโดรเจน โดยที่ต่อมไขมันจะมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนตัวนี้ และนั่นก็จะทำให้เกิดการหลั่งไหลของไขมันที่เพิ่มมากขึ้น

สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน

________________________________________________________

  • เกิดจากกรรมพันธุ์ ซึ่งสาเหตุนี้อาจไม่สามารถป้องกันได้

  • เกิดจากระดับฮอร์โมน เช่นในช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือวัยรุ่น โดยกรดไขมันที่เกิดจากากรย่อยไขมันโดยเชื้อโรคจะถูกขับออกมาตามรูขุมขนพร้อมๆกับเชื้อโรคตลอดเวลา แต่ระดับฮอโมนเพศในช่วงดังกล่าวจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตไขมันมากขึ้น ดังนั้นไขมันจึงระบายออกมาไม่ทัน เชื้อโรคจึงมีโอกาสแบ่งตัวมากขึ้น

  • เกิดจากสภาพอากาศ เช่น บางคนโดนแดดมาก ๆ สิวก็ขึ้นได้คะ

  • เกิดจากสภาวะเครียด เนื่องจากเมื่อเราเครียดการไหลเวียนของเลือดจะเริ่มผิดปกติ ต่อมไขมัน ผลิตไขมันมากจนเกิดสิว นอกจากนี้ความเครียดยังทำให้ความต้านมานโรคของร่างกายต่ำลง ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น

  • เกิดจากการแพ้อาหาร เช่น บางคนทานช็อกโกแลต แล้วสิวขึ้นทันที ทานเมื่อไรก็ขึ้นทุกที

  • เกิดจากการทาครีม หรือแป้ง ทำให้มีการอุดตันรูระบายไขมัน สารเคมีในสบู่บางชนิดอาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ครีมบำรุงผิว น้ำมันและโลชั่นบางชนิดอาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดสิว 

วิธีการป้องกันและรักษาสิวอุดตัน

  1. ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการล้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น สบู่ โฟม หรือเจล ที่เหมาะกับสภาพผิวมัน และควรมีส่วนผสมของตัวยาที่สามารถป้องกันการเกิดสิวได้

  2. ไม่ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำหอมและสารดีเทอร์เจ้นท์

  3. หากเป็นคนที่มีใบหน้าที่มันมาก ควรใช้โลชั่นเช็ดหน้าหรือยารับประทานที่อยู่ในกลุ่ม Retionoids หรือยาคุมกำเนิดที่อยู่ในกลุ่ม Dian-35 เพื่อลดความมันของใบหน้าได้

  4. เลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF15 เพื่อสามารถป้องกันความมันของเนื้อครีมกันแดดได้

  5. สำหรับผู้ที่มีใบหน้าแพ้ง่ายควรใช้ครีมแก้แพ้หรือสบู่ล้างหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะสบู่ประเภทนี้จะมีความอ่อนโยนต่อสภาพผิว

  6. ครีมบำรุงที่ใช้ไม่ควรเลือกที่มีส่วนผสมของน้ำมันและเนื้อครีมไม่ควรมัน รวมทั้งไม่มีฮอร์โมนผสมอยู่ในครีมบำรุงนั้นด้วย

  7. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดสิวง่าย ไม่ว่าจะเป็น อาหารที่มีความมัน อาหารรสชาติจัดจ้าน ขนมหวาน ไอศกรีม หรือแม้แต่ผลไม้อย่างทุเรียนก็ตาม

  8. ควรให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งไม่ปล่อยให้อยู่ในภาวะตึกเครียด เพราะภาวะดังกล่าวจะทำให้เชื้อโรคเกิดการเจริญเติบโตได้เร็วมากขึ้น

  9. ไม่ควรเอามือไปกดหรือบีบสิวเอง เพราะนอกจากจะไม่ทำให้สิวหลุดออกมาได้แล้ว ยังทำให้สิวมีอาการอักเสบขึ้นมาได้

Tip1 : รักษาสิวอุดตันด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ

  1. ใช้มะเขือ มาฝานและถูให้ทั่วใบหน้า จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ก็จะทำให้สิวอุดตันยุบตัวลงได้แล้ว

  2. ใช้น้ำผึ้งมาพอกหน้า ประมาณสัปดาห์ละ 4 ครั้งในขณะที่พอกนั้นจะต้องใช้มือนวดหน้าแล้ววนไปเรื่อยๆ ประมาณ 3 นาที ซึ่งวิธีนี้จะมีส่วนช่วยในการลดสิวอุดตันได้ดีและมีความปลอดภัย

  3. ใช้เนื้อทุเรียน ที่กำลังห่ามประมาณ 3 – 5 ช้อนโต๊ะ มาปั่นให้เข้ากันกับดินสอพอง 1 ใน 4 ช้อนโต๊ะ คนจนเป็นเนื้อครีม นำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาพอกจนทั่วผิวหน้า เว้นรอบดวงตา แล้วปล่อยไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ล้างตบท้ายด้วยน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อปิดกระชับรูขุมขน 

  4. นำสำลีชุบลงในไข่ขาว มาวางบนใบหน้าจนทั่ว ยกเว้นเพียงรอบดวงตาและริมฝีปาก ปล่อยไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วลอกออกอย่างช้าๆ จากนั้นล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น วิธีนี้จะช่วยกำจัดได้ทั้งสิวอุดตัน และสิวเสี้ยน นอกจากนี้ ยังช่วยดูดซับเอาสิ่งสกปรกให้หมดลงจากใบหน้า

Tip2 : รักษาสิวอุดตันด้วยยา

  1. ใช้ยาเบนซอยล์เพอร์ออกไซด์ หรือที่รู้จักในชื่อ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ ซึ่งยาชนิดนี้จะมีความสามารถในการช่วยลดสิวอุดตันได้ในระดับปานกลาง และมีหลากหลายยี่ห้อให้ได้เลือก เช่น Benzac AC, Enzoxid, Brevoxyl, PanOxyl, ACNEXYL โดยคุณสามารถใช้ยาตัวนี้ได้ด้วยการนำมาทาให้ทั่วใบหน้าก่อนการล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็น โดยทายาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด มันจะช่วยลดการอุดตันของต่อมไขมันได้

  2. ใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเรตินอยด์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ชนิดนี้หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดีในชื่อที่เรียกว่ายาละลายสิวอุดตัน ซึ่งเป็นสารสกัดจากอนุพันธ์ของวิตามินเอ มีความสามารถในการช่วยลดสิวอุดตันได้ในระดับดีเลยทีเดียว ช่วยในการละลายไขมันที่อุดตันให้มีความอ่อนตัวและหลุดออกมาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

  3. ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท AHA และ BHA ซึ่งเป็นตัวยาที่มีทั้งในรูปแบบโลชั่นและของเหลว ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้อาจจะให้ผลลัพธ์ที่ช้ากว่าตัวยาและผลิตภัณฑ์อื่นๆ แต่กลับมีผลข้างเคียงน้อยกว่า จึงทำให้โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นสิวอักเสบหรือผลกระทบจากการใช้ยาน้อยลง โดยผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะมีส่วนช่วยในการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงเป็นการป้องกันการเกิดสิวได้ไปในตัว

April 14, 2017

April 13, 2017

April 12, 2017

April 11, 2017

______________________________________

LATEST!!

April 18, 2017

June 14, 2017

#IHEARTDEFACEBRAND

  • Untitled-1
  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon

Click Here

______________________________________________________________________________________________________

bottom of page